ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระราชวังเคียงบกกุง

พระราชวังเคียงบกกุง


พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

   
พระราชวังเคียงบกกุงนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ มีความเก่าแก่และสวยงามที่สุด เนื่องจากฉากหลังของพระราชวังนั้นเป็นเขาพูกักซาน จึงทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก  



พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า พระราชวังคยองบกกุง เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน เดิมทีนั้นภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น
พระราชวังทิศเหนือ (Northern Palace) ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งอื่นๆ เช่น พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และพระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeongheegung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก อย่างไรก็ตามพระราชวังเคียงบกกุงนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุด เนื่องจากฉากหลังของพระราชวังนั้นเป็นเขาพูกักซาน จึงทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก

คำว่า เคียงบกกุง” หมายถึง พระราชวังแห่งพรที่มีแสงสว่าง ภายในบริเวณของพระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจดังนี้คือ พระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon)และ ศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong)” ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณสระน้ำ มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก และรอบๆ บริเวณตรงประตูจอนชุลมุน จะสามารถเดินผ่านไปถึงถนนซัมจองดองกิล ยังมีร้านขายชุดฮันบกอันเก่าแก่ให้ได้เลือกชม รวมไปถึงหอศิลป์ต่างๆและทำเนียบชองวาแด เมื่อเดินไปรอบๆจะพบส่วนหย่อมที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประตูฮึงรแยมุน (Heungnyemun Gate) กับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (National Folk Museum) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกในพื้นที่พระราชวังเคียงบกกุง (Hyangwonjeong) อีกด้วย

การเดินท่องเที่ยวภายในบริเวณพระราชวัง จะทำให้ได้ซึมซับและรู้จัก วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวเกาหลีมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายในบริเวณแห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจของคนเกาหลี

*หมายเหตุ: ตั๋วเข้าชมพระราชวังเคียงบกกุง มีจำหน่ายที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ เช่นกัน



แผนที่พระราชวังเคียงบกกุง

แนะนำเส้นทางเดินเที่ยวในพระราชวัง

ให้เริ่มเดินจากด้านหน้าพระราชวัง ตรงขึ้นไปเรื่อยๆผ่านอาคารและตำหนักต่างๆ เดินจนไปถึงด้านหลังพระราชวังแล้วเที่ยวชมตำหนักและศาลากลางนี้ จากนั้นเดินย้อนมาทางพิพิธภัณฑ์ทางด้านขวาและเดินออกประตูด้านข้าง จะสามารถเดินต่อไปยังถนนเส้นช้อปปิ้งและเที่ยวหมู่บ้านบุคชอนฮันอก Bukchon Hanok Village ต่อได้
แนะนำเส้นทางเดินเที่ยวในพระราชวังเคียงบกกุง

การเข้าชม

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (19-64 ปี): 3,000 วอน / กลุ่ม(มากกว่า 10 คน): 2,400 วอน
เด็ก (7-18 ปี): 1,500 วอน / กลุ่ม(มากกว่า 10 คน): 1,200 วอน
* เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด: มกราคม-กุมภาพันธ์ 09:00-17:00
มีนาคม-พฤษภาคม 09:00-18:00
มิถุนายน-สิงหาคม 09:00-18:30
กันยายน-ตุลาคม 09:00-18:00
พฤศจิกายน-ธันวาคม 09:00-17:00
* เข้าชมก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง
* เวลาเปิดปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสถานการณ์
วันปิดทำการ: ปิดทุกวันอังคาร

วิธีการเดินทาง

1. ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ทางออก 5 จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตรก็จะถึงประตูทางเข้าพระราชวัง (แนะนำให้ลงที่สถานีนี้เพราะใกล้พระราชวังที่สุด)
2. ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงที่สถานี Gwanghwamun Station ทางออก 2 จากนั้นเดินตรงไปอีก 450 เมตรก็จะถึงประตูทางเข้าพระราชวัง

อ้างอิง:https://www.chilloutkorea.com/gyeongbokgung-palace/

หน้าหลัก⇐         •••1,2,3,4 •••         หน้าสุดท้าย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Profile Frank

MY PRO F I L E . ชื่อ : นันทวัฒน์ สุพรรณการ ชื่อเล่น : เเฟรงค์ วันเกิด : 4 กรกฎาคม 2544 ส่วนสูง : 195 ซม.    น้ำหนัก : 85 กก. กรุ๊ปเลือด : บี เชื้อชาติ : ไทย     สัญชาติ :ไทย   ศาสนา : พุทธ ที่อยู่ : 18 หมู่4 อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13190 เบอร์โทรศัพท์ : 0955517464 ความสามารถพิเศษ : เล่นกีฬาวอลเลย์บอล วิชาที่ชอบ : คณิตศาสตร์ วิชาที่ไม่ชอบ : พลศึกษา สีที่ชอบ : สีม่วง งานอดิเรก : ซ้อมวอลเลย์บอล อาชีพที่อยากเป็น : ทหาร อาหารที่ชอบ : เคเอฟซี & ชาบู คติประจำใจ : ไม่ปวดหัวก็เป็นไข้ ไม่ห่วงใยก็คิดถึง Facebook : Nanthawat Supannakran หน้าหลัก

การนำเสนอข้อมูล

หน้าหลัก

ศาตร์พระราชา

จุดเริ่มต้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการใช้แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายใน เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน  สิ่งสำคัญ  ก็คือ  ความพอเพียงในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนด ชะตาชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้อง การต่างๆ รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่ เดิม ต้องถูกกระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความอ่อนแอของชนบท รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นข้อพิสูจน์และยืนยันปรากฎการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี